ปรีชา ชนะภัย

ปรีชา ชนะภัย




ปรีชา ชนะภัย หรือที่รู้จักกันในชื่อ เล็ก คาราบาว เกิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2498 ที่กรุงเทพมหานคร เล็กจบการศึกษาระดับมัธยมต้นที่โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม และเข้าเรียนระดับอาชีวศึกษาที่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย รุ่นเดียวกับแอ๊ด คาราบาว (ยืนยง โอภากุล) แต่ทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันระหว่างที่เรียน เล็กเล่นดนตรีครั้งแรกในแนวเพลงคลาสสิก และเข้าร่วมกับวงเพรสซิเดนท์ เล่นตามห้องอาหารในโรงแรมต่าง ๆ ในตำแหน่งมือกีตาร์ เป็นที่เลื่องลือกันในหมู่นักดนตรีว่า เล่นได้ดี จนกระทั่งแอ๊ดได้มาเล่นดนตรีในโรงแรมเดียวกัน โดยวงเพรซซิเด้นท์เริ่มเล่นก่อน และต่อด้วยคาราบาว ระหว่างที่แอ๊ดเล่นดนตรีอยู่ เล็กได้มายืนมองด้วยความสนใจ แอ๊ดจึงได้ชวนเข้ามาร่วมวงด้วยกัน และออกอัลบั้มในชุดที่ 2 ของวง ในชุด "แป๊ะขายขวด" ในปี พ.ศ. 2525
เมื่อคาราบาวโด่งดังถึงขีดสุดในปี พ.ศ. 2527 เล็ก ในฐานะมือกีตาร์ของวง จึงได้แสดงภาพยนตร์ เป็นครั้งแรก ในเรื่อง "หยุดหัวใจไว้ที่รัก" ซึ่งได้ไปถ่ายทำถึงประเทศญี่ปุ่น โดยรับบทเป็นพระเอกเอง ประกบคู่กับนางเอก อนุสรา จันทรังษี
เล็ก คาราบาว นับได้ว่าเป็นนักกีตาร์ฝีมือดีคนหนึ่งของเมืองไทย เล่นกีตาร์ได้โดยไม่ใช้ปิ๊ก มีฝีมือการโซโล่กีตาร์อันดับต้นๆของเมืองไทย รวมทั้งเล่นเครื่องดนตรีได้หลากหลาย เช่น แบนโจ,คีย์บอร์ด, เปียโน, กลอง เป็นต้น เล็ก คาราบาว ออกอัลบั้มเดี่ยวของตนชุดแรกในปี พ.ศ. 2532 ในชื่อชุด "ดนตรีที่มีวิญญาณ" มีความโดดเด่นและทันสมัยในแนวดนตรี จึงทำให้ได้รับรางวัลสีสันอะวอร์ดทั้งสาขาศิลปินชายยอดเยี่ยมและอัลบั้มยอดเยี่ยม ในปีนั้นด้วย และมีอัลบั้มเดี่ยวออกมาต่อจากนั้นหลายชุด เช่น ภูผาหมอก, เรา...คนไทย, ล...เล็ก , มีดกรีดใจ, ขอทานเจ้าสำราญ,โลกใบนี้ เป็นต้น โดยบทเพลงที่แสดงถึงความสามารถทางดนตรีของเล็ก ที่เห็นเด่นชัดคือเพลง ขุนเขายะเยือก ซึ่งเป็นเพลงบรรเลงที่มีการโซโล่กีตาร์ยาวนานถึง 5 นาที ในอัลบั้ม หากหัวใจยังรักควาย ปี พ.ศ. 2539
ชีวิตส่วนตัว เล็ก คาราบาว สมรสกับศศิธร ชนะภัยโดยมีบุตรชาย 2 คน ชื่อ ต๊อด และ แฟ้บ โดยบุตรคนแรกเกิดจากภรรยาเก่า และมีกิจการส่วนตัวนอกเหนือจากการเล่นดนตรีคือ ผลิตกีตาร์โปร่งในนามของวงคาราบาว โดยเริ่มผลิตออกมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2547 โดยออกมา 2 ชุด ใช้ชื่อรุ่นว่า "คนเก็บฟืน" และ "มนต์เพลงคาราบาว" และได้ร่วมแสดงภาพยนตร์อีกครั้ง ในเรื่อง "แฟนฉัน" ในปี พ.ศ. 2546 ที่โด่งดัง โดยรับบทเป็นพ่อของตัวละครเด็กหญิงในเรื่อง และออกหนังสือที่เกี่ยวกับประสบการณ์การแสดงดนตรีในอเมริกา ในปี พ.ศ. 2545 ชื่อ "135 วัน อเมริกัน อเมริกา" และอีกเล่มเกี่ยวกับประสบการณ์การเล่นดนตรีตั้งแต่ยุคแรก ๆ ในปี พ.ศ. 2550 ชื่อ "...เบื้องบนเป็นแผ่นฟ้ากว้าง..."
เล็ก คาราบาว มีบุคลิกที่ค่อนข้างเงียบขรึม ไว้หนวดยาวเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง โดยไว้มาตั้งแต่ยังหนุ่ม ปัจจุบัน เล่นเครื่องดนตรีไฟฟ้าน้อยลง โดยมีความสนใจอยู่ที่เครื่องดนตรีพื้นเมืองของภูมิภาคเอเชีย เช่น กู่เจิง, ซออู้ เป็นต้น และติดปิ๊กไว้กับเล็บนิ้วชี้มือขวาตัวเองอย่างถาวร